ศาลฎีกาของไทยพิพากษายืนให้ประหารชีวิตอดีตครูใหญ่โรงเรียนประถมที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆ่าคน 3 คน รวมทั้งเด็กวัยเตาะแตะ ระหว่างการปล้นร้านทองด้วยอาวุธในปี 2563
ศาลตัดสินเมื่อวันพุธว่า ประสิทธิชัย แก้วขาว ไม่สมควรได้รับการลดโทษในประโยคเดิม โดยเรียกเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าในจังหวัดลพบุรีว่า “อุกอาจ ไร้มนุษยธรรม” ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คนจากการโจมตีและพนักงานขาย 1 คน รปภ.และเด็กชายวัย 2 ขวบถูกฆ่าตาย
ประสิทธิชัยถูกตัดสินว่ามีความผิดในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 และได้รับโทษประหารชีวิตในข้อหาต่างๆ รวมถึงการฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน การฆ่าโดยเจตนาก่ออาชญากรรมอื่น และการพกพาปืนโดยผิดกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ยังยืนโทษประหารชีวิตในปี 2564
ศาลฎีกากล่าวว่าจำเลยในฐานะครูและอาจารย์ใหญ่ควรประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน แต่กลับก่ออาชญากรรมร้ายแรง ดังนั้นจึงกล่าวว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะยื่นอุทธรณ์เพื่อขอลดโทษ
ภาพความปลอดภัยของเหตุกราดยิงดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง และส่งคลื่นสั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ วิดีโอหนึ่งแสดงให้เห็นชายสวมหน้ากากสกีสีดำและกางเกงลายพราง สะพายเป้คาดหน้าอก ถือปืนพกพร้อมเครื่องเก็บเสียงขณะเข้าไปในห้างโรบินสันลพบุรี กล้องอีกตัวที่ร้านทองแสดงให้เห็นชายคนดังกล่าวกำลังยิงปืน ส่วนเด็กวัยเตาะแตะที่เดินจับมือกับผู้ใหญ่ก็ล้มลงกับพื้น ชายคนดังกล่าวคว้าสร้อยคอทองคำไปหลายเส้นก่อนจะหลบหนีไป
ประสิทธิชัยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังการจับกุมว่าไม่ได้เจตนายิงเด็กและเหยื่อคนอื่นๆ เขาบอกว่าเขาเปิดฉากยิงเพื่อข่มขู่ผู้ซื้อและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อให้เขาสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย
จากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ประเทศไทยมีผู้ต้องขังที่ต้องโทษประหาร 250 คน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดย 23 คนถูกศาลฎีกาพิพากษายืน
บุคคล 7 คนถูกประหารชีวิตตั้งแต่ประเทศไทยเปลี่ยนจากการใช้หน่วยยิงเป็นการฉีดยาพิษในปี 2546 การประหารชีวิตครั้งล่าสุดของประเทศไทยคือในปี 2561